All-New Yamaha N MAX155 พรีเมียมออโตเมติก หล่อ แรง ประหยัด….
ออล นิว ยามาฮ่า เอ็นแม็ก 155 พรีเมียมออโตเมติกรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดทั้งคัน พร้อมเสริมอ็อพชั่นและเทคโนโลยีที่เหนือชั้นที่สุดในคลาส ในราคาเปิดตัวสุดคุ้มค่าพร้อมการรับประกันตัวรถนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กม.ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรที่แตกต่างไปจากโฉมก่อน สมรรถนะการขับขี่จะเป็นอย่างไร และมีไฮไลท์เด็ดอะไรบ้างไปสัมผัสกันเลยค๊ะ
ยามาฮ่า เอ็นแม็ก 155 มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของดีไซน์ของตัวรถ รวมถึงรายละเอียดทางวิศว กรรมในหลายส่วน เพื่อช่วยเสริมสมรรถนะของตัวรถให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่า ยามาฮ่า เอ็นแม็ก 155 รุ่นเดิม และมีการเพิ่มเติมออปชั่นในหลายส่วน เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในยุคดิจิ ตอล มาก กว่ารุ่นเดิม
สำหรับดีไซน์ของ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็นแม็ก 155 นั้น หากมองผ่านๆ หลายท่านอาจจะบอกว่าไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงไปซักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากมาพิจารณาดีดีแล้ว จะเห็นได้ว่าชิ้นส่วนภายนอกทั้ง หมดมีการเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ ส่วนด้วยกัน
เริ่มจาก ชิลหน้า ที่มีการปรับทรงใหม่ ยกปลายชิลให้เชิดขึ้น เพื่อช่วยลดแรงลมปะทะขณะขับขี่ได้ดีกว่าโฉมก่อน ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ ส่องสว่างแบบ Full LED ภายในโคมแยก 2 ชั้น ระหว่างไฟสูง-ไฟต่ำ ดีไซน์จะคล้ายๆ รุ่น เอ็กซ์แม็ก 300 ตำแหน่งของไฟเลี้ยวถูกจัดวางในตำแหน่งใหม่ อยู่ใกล้กับโช้คหน้า ชุดแฟริ่งด้านหน้า และด้านข้างทั้งหมดเปลี่ยนใหม่ กุญแจระบบ Smart Key System ที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก สามารถควบคุมการเปิดเบาะ-ถังน้ำมัน-สตาร์ทรถ-ดับเครื่องยนต์ และล็อคคอในจุดเดียว ช่วยป้อง กันการขโมยได้ดีกว่ากุญ แจแบบเดิม
คอนโซลหน้า จะออกแบบให้มีช่องเก็บของ 2 ฝั่ง โดยฝั่งซ้ายออกแบบให้มีช่องเสียบชาร์จมือถือมาให้ส่วนฝั่งขวามีฝาปิดเพื่อกันน้ำ ถังน้ำมันถูกปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 7.1 ลิตร ช่วยให้ขับขี่เดินทางได้ไกลขึ้นกว่าโฉมก่อน เช่นเดียวกับ U-Box พื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะไซส์ XL สามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ 1 ใบ
ไฟท้ายมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยไฟท้ายของออล นิว ยามาฮ่า เอ็นแม็ก 155 นั้น จะเป็นแบบ LED ดีไซน์คล้ายรุ่นเอ็กซ์แม็ก 300 แต่ ไฟเลี้ยวยังเป็นหลอดไส้เหมือนตัวเดิม บังโคลนท้ายที่ยึดแผ่นป้ายทะเบียน และไฟทับทิมมีการปรับทรงใหม่ ให้ดูมีความสปอร์ตขึ้นกว่าเดิม
หน้าปัดเรือนไมล์ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็นแม็ก 155 เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่มีการปรับใหม่ให้ดูล้ำสมัย และใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยออกแบบให้เป็นหน้าจอ LCD สีเหลี่ยมขนาดใหญ่ โดยหน้าจอจะควบคุมการทำงานต่างๆ ผ่านสวิตช์เมนูที่ประกับแฮนด์ด้านซ้าย ซึ่งบอกรายละเอียดที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง,ทริป เอ และ บี , ระยะทางรวม, เวลา, มาตรวัดความเร็ว, การทำงานของระบบ ABS,ระบบ แจ้งเตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และการทำงานของระบบวาล์วแปรผัน VVA
ระบบช่วงล่าง โช๊คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิดขนาด 30 มินลิเมตร ซึ่งมีการเซ็คไส้ในใหม่ที่แตกต่างจากโฉมเก่า ซึ่งมีค่าความแข็งของสปริงที่ลดลง และมีขนาดความยาวของสปริงด้านในที่ยาวขึ้น ส่วนด้านหลังเป็นแบบยูนิคสวิง ที่ออกแบบให้มีความยาวของสปริงที่ยาวขึ้นกว่าโฉมก่อนเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ระบบช่วงล่างให้การขับขี่ที่นุ่มนวล และนั่งสบายกว่าโฉมก่อนค๊ะ
ในส่วนของระบบเบรก ที่มาพร้อมระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งทำให้ ออล นิว ยามาฮ่า เอ็นแม็ก 155 มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด อีกทั้ง ยังมาพร้อมกับระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel ที่ช่วยควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติ และป้องกันล้อล็อคทั้ง 2 ล้อ ซึ่งจุดนี้เองก็ยังเป็นจุดแข็งที่ยามาฮ่า ใส่ใจ ซึ่งคู่แข่ง จะไม่มีระบบเบรก ABS แต่จะมีแค่ระบบ Combine Brake มาให้เท่านั้นค๊ะ
ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ ซึ่งขนาดก้านจะเล็กกว่าโฉมก่อน โดยมาในขนาด 13 นิ้ว พร้อมยาง IRC ขนาด 110/70-13 ที่ด้านหน้า และ 130/70-13 ที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นยางแบบไม่มียางใน
เครื่องยนต์ BLUE Core เจเนอร์เรชั่นใหม่ แบบ 1 สูบ ขนาด 155 ซีซี. แบบ SOHC 4 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัตโนมัติ VVA ที่ให้อัตราเร่งที่ดี และตอบสนองต่อแรงบิดได้ดีทั้งรอบต่ำและรอบสูง ซึ่งถือเป็นอีกไฮไลท์สำคัญที่ทำให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งในท้องตลาด ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ทั้งนี้ มีการออกแบบลูกสูบใหม่แบบ Forged ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงแบบรถสปอร์ต ซึ่งมีความแข็งแกร่ง และทนทาน อีกทั้งยังมีกำลังอัดที่ดีกว่าโฉมเดิม
และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เพิ่มเข้ามา ก็คือ SMART MOTOR GENERATOR มอเตอร์ไฟฟ้าที่ช่วยให้การสตาร์ทเครื่องยนต์เงียบขึ้น และติดได้อย่างรวดเร็ว เสริมด้วย Stop & Start System ระบบดับเครื่อง ยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดสนิท ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม
สำหรับท่านั่งในการขับขี่นั้น มีความกระชับ ควบคุมรถได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากตัวรถค่อนข้างที่จะไม่สูงมากนักจึงทำให้เท้าทั้ง 2 ข้างสามารถเหยียบได้เต็มพื้น ให้การควบคุมรถขณะจอดนิ่งได้อย่างมั่นคง น้ำหนักตัวรถไม่หนักจนเกินไป การเข็นรถออกจากช่องจอด หรือการขยับรถในที่แคบๆ สามารถทำได้อย่างคล่อง ตัว ตำแหน่งแฮนด์มีความสูงที่เหมาะสม และให้การควบคุมที่ง่ายต่อการบังคับเลี้ยว และการขับขี่เดินทาง ไกลถือว่าสะดวกสบาย เบาะนั่งมีความกระชับ ฟองน้ำหนา ช่วยลดอาการเมื่อยล้าขณะขับ ขี่ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย หรือ ผู้หญิงก็สามารถขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวกค๊ะ
สำหรับสมรรถนะการขับขี่ ก็ต้องบอกว่าเป็นรถที่ขี่สนุก เร้าใจ อัตราเร่งให้การตอบสนองได้ดีในทุกย่านความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว การเร่งแซง โดยเฉพาะรอบเครื่องยนต์สูงๆ ที่ต้องการบิดออกตัวเพื่อเร่งแซง จะสามารถทำได้อย่างทันใจ เป็นผลมาจากการทำงานของเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน VVA โดยอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดอยู่ที่ 37.4 กิโลเมตรต่อลิตร
นอกจากนี้ ยังเป็นรถออโตเมติกที่ให้การขับขี่ที่คล่องตัว ควบคุมง่าย สามารถขับขี่ในเส้นทางจรา จรที่ติดขัดไปได้อย่างไม่กังวล อีกทั้งระบบเบรก จัดว่าให้การหยุดรถได้อย่างมั่นใจ ดิสก์เบรกทั้ง 2 ล้อ พร้อมระบบเบรกแบบ ABS Dual Channel ให้การทำงานที่รวดเร็ว ป้องกันอาการล้อล็อคได้ดี โดยภาพรวมทั้งดีไซน์ที่หรูหรา ล้ำสมัย เปลี่ยน แปลงไปจากโฉมก่อนอย่างเห็นได้ชัดเจน จึงไม่อาจที่ชาวสองล้อไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมยามาฮ่า ใก้ลบ้านค๊ะ…..
#พรีเมียมออโตเมติก
#ไทยยามาฮ่ามอเตอร์
#ยามาฮ่า
Comments