top of page
  • Writer's pictureRat Rungrat

Toyota


โตโยต้า พาไปไห้วพระเกจิดัง"หลวงปู่เหลือง" พระดี เมืองบุรีรัมย์ วัดกระดึงทอง

เมืองบุรีรัมย์ นอกจากจะเป็นเมืองแห่งมอเตอร์สปอร์ตแล้ว ยังมีพระดีที่ควรกราบไหว้ อีกหนึ่งรูปในเวลานี้คือ"หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม" หรือ พระราชปัญญาวิสารัท เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต) ซึ่งพุทธศาสนิกชนรู้จักกันในนาม"หลวงปู่เหลือง "วัดกระดึงทอง

พุทธศาสนิกชนชาวบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงจะแวะเวียนมากราบไหว้ ขอพร หลวงปู่เหลือง เกจิดัง แห่งแดนอีสานใต้กันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งในปี 2563 ท่านมีอายุได้ 93 ปีเศษ หลวงปู่เหลืองเป็นศิษย์อาวุโสรูปหนึ่งของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร, พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสีปาลิวัน จ.กาฬสินธุ์ รวมถึงท่านพ่อลี ธมฺมธโร แห่งวัดป่าคลองกุ้ง ด้วยจริยาวัตรแบบพระผู้ติดดิน อยู่อย่างสมถะเรียบง่าย แม้ท่านจะมีตำแหน่งสูงทางโลกแต่ไม่เคยถือยศถือตำแหน่งใดๆ ท่านจึงได้รับความศรัทธานับ ถือจากพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ แวะเวียนมา กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล

หลวงปู่เหลือง มีนามเดิมว่า เหลือง ทรงแก้ว ท่านเกิดในยามใกล้รุ่งของวันอังคารที่ 1 พ.ค. ปี พ.ศ. 2470 ที่บ้านนาตรัง หมู่ที่ 2 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นบุตรคนที่ 6 ในครอบครัวของนายเที่ยง ทรงแก้ว และนางเบียน ทองเชิด หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขณะอายุได้ 15 ปี แล้วออกจาริกเดินตามหลังพระพี่ชายไปตอนอายุ 16 ปี หลังจากนั้นชีวิตของหลวงปู่เหลืองก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


ด.ช.เหลือง ออกจากบ้านเดินตาม พระครูสมุห์ฉัตร ธมฺมปาโล และพระอาจารย์สมุห์เสร็จ ญาณวุฑโฒ 2 ภิกษุศิษย์หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “มือขวา” ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ใน พ.ศ. 2486 จากสุรินทร์ไปถึงนคร ราชสีมา ไปฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ด้วยอายุเพียงเท่านั้น แต่ท่านมีบุญได้พบครูบาอาจารย์แล้วหลายรูป อาทิ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระผู้สรุปอริยสัจ 4 จากการปฏิบัติไว้ ชนิดคนสามัญขนานนามท่านว่า เจ้าแห่งจิต ท่านพ่อลี ธมฺมธโร แห่งวัดป่าคลองกุ้ง ฯลฯ รวมทั้งได้มอบกายถวายใจเป็นศิษย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

หลวงปู่เหลืองเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้น ขณะอายุ 17 ปี หรือราวช่วง พ.ศ. 2486-2487 โดยบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสุทธจินดา จ.นคร ราชสีมา มีพระโพธิวงศาจารย์ (สังข์ทอง นาค วโร) หรือเจ้าคุณโพธิฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ลุถึง พ.ศ. 2490 จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดป่าศรัทธารวมนั่นเอง


พ.ศ. 2515 เป็นเจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง และเป็นเจ้าคณะตำบล วัดแห่งนี้เดิมเป็นวัดที่พระอาจารย์สมุห์เสร็จ พี่ชายเป็นคนบุกเบิกสร้างไว้ เมื่อท่านออกวิเวก เสียชีวิตเพราะไข้ป่า พระสมุห์ฉัตร พี่ชายคนรองก็เป็นคนมาดูแลแทน

ปี พ.ศ. 2519 พระราชปัญญาวิสารัท หรือหลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง พ.ศ. 2523 เป็นเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต)

หลวงปู่เหลือง เป็นพระมหาเถระที่ควรแก่การอัญชลี ท่านเจริญรอยตามครูบาอาจารย์ของท่านคือ แน่วแน่กับการปฏิบัติภาวนาไม่เสื่อมคลาย อยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย แทบไม่มีใครจำสมณะศักดิ์ของท่านได้ เรียกกันแต่ว่า"หลวงปู่เหลือง" วัดกระดึงทอง ด้วยวัย 93 ปีเศษ ทุกวันนี้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงดีพอสมควรและยังรับกิจนิมนต์โปรดญาติโยม……

*ติดตามข่าว:www.gpssentangfocus.com

#หลวงปู่เหลือง

#วัดกระดึงทอง

#บุรีรัมย์

#www.gpssentangfocus.com

20 views0 comments

Comments


bottom of page